เรื่อง ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออก (มีผลกระทบในช่วงวันที่ 20-24 พฤศจิกายน 2565)
ร่องมรสุมเลื่อนขึ้นมาพาดผ่านบริเวณภาคใต้ตอนกลาง ทำให้ภาคใต้ฝั่งตะวันออกมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักมากบางแห่ง ในช่วงวันที่ 20-24 พฤศจิกายน 2565 ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทย มีกำลังแรง โดยทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระวัดระวังและเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง
กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุราษฎร์ธานี พิจารณาแล้ว เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ฝนตกหนัก ฝนตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมขัง ที่อาจสร้างความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่สี่ยงภัย จึงขอให้อำเภอ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ดังนี้
1. แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ ติดตามพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด เฝ้าระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ลมกระโซกแรง น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ที่อาจจะเกิดขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีฝนตกสะสมมากกว่า 90 มิลลิเมตร ในช่วงเวลา 24 ชั่วโมง และพื้นที่จุดเสี่ยงที่เคยเกิดน้ำท่วมเป็นประจำ ในระหว่างวันที่ 20-24 พฤศจิกายน 2565
2. ให้สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคทุกสาขา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ควบคุมการเดินเรืออย่างใกล้ชิด ผู้โดยสารเรือทุกคนต้องสวมเสื้อชูชีพ เรือสปีดโบ๊ท เรือประมง เรือโดยสาร และเรือเฟอร์รี่ ส่วนชาวเรือควรเดินเรือ ด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง ในระหว่างวันที่ 20-24 พฤศจิกายน 2565
3. ให้อุทยานทุกแห่ง หรือสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นน้ำตก ถ้ำ จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด ถ้าสถานการณ์วิกฤติ ให้ดำเนินการปิดหรือห้ามเข้าโดยเด็ดขาด
4. เตรียมความพร้อมตามแผนเผชิญเหตุ ทรัพยากรกู้ภัย เครื่องจักรกล กำลังเจ้าหน้าที่ให้พร้อมปฏิบัติงาน อำนวยความสะดวก และให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัย ตลอด 24ชั่วโมง
หากเกิดสาธารณภัยขึ้น ให้รายงานสถานการณ์เหตุด่วนให้กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุราษฎร์ธานีทราบโดยเร่งด่วน ทางหมายเลขโทรศัพท์ 077-275-551 หรือ 077-275-847 โทรสารอัตโนมัติ 077-275-848 และทางวิทยุสื่อสาร "ศูนย์ ปภ.สุราษฎร์" ความถี่ 153.775 MHz / 150.150 MHz และ ความถี่ 145.000 MHz จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ
|